วันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2554
วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม
รักใดๆ ไหนเล่าเท่ารักแม่
ด้วยแก่นแท้ชื่นจิตพิสมัย
รักอื่น ๆ หมื่นแสนจากแดนใด
หาเทียบได้รักของแม่เที่ยงแท้เอย
ร่างกายของเรา
ร่างกายของมนุษย์ประกอยด้วยหน่วยย่อยที่เรียกว่า เซลล์ มีรูปร่างและหน้าที่แตกต่างกัน เซลล์ที่ทำหน้าที่เหมือนกันมาอยู่รวมกัน เพื่อทำหน้าที่เฉพาะอย่างเรียกว่า เนื้อเยื่อ หลาย ๆ เนื้อเยื่อที่ทำหน้าที่อย่างเดียวกัน เรียกว่า อวัยวะ และหลาย ๆ อวัยวะเมื่อมาทำงานประสานกัน เรียกว่า ระบบอวัยวะ
ระบบในร่างกายมนุษย์
ระดับเซลล์
เซลล์ คือ องค์ประกอบพื้นฐานที่เล็กที่สุดของสิ่งมีชีวิต เซลล์ 1 เซลล์ สามารถทำหน้าที่ได้เท่ากับสิ่งมีชีวิตหนึ่งชีวิต เพราะสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ลักษณะของเซลล์ของสิ่งมีชีวิตจะมีความแตกต่างทั้งขนาดและรูปร่างของเซลล์ขึ้นอยู่กับหน้าที่ของเซลล์นั้นๆ เช่น อสุจิ 1 ตัว คือ 1 เซลล์ มีรูปร่างเหมาะที่จะว่ายไปผสมกับไข่ในมดลูก
ร่างกายของคนเราประกอบด้วยเซลล์ที่มีรูปร่าง และขนาดต่างกันไปตามหน้าที่การทำงาน
ระดับเนื้อเยื่อ
เนื้อเยื่อ หมายถึง กลุ่มของเซลล์ที่มีรูปร่างเหมือนกันมาอยู่รวมกัน เพื่อทำหน้าที่อย่างใดอย่างหนึ่งโดยเฉพาะ เนื้อเยื่อแบ่งได้เป็น 4 ชนิด คือ เนื้อเยื่อผิว เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน เนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ และเนื้อเยื่อประสาท เช่น เนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ มีหน้าที่ช่วยให้ร่างกายเคลื่อนไหวได้ ทำงานได้ เนื้อเยื่อประสาททำหน้าที่ประสานงานในการรับความรู้สึก การสั่งงาน
ระดับอวัยวะ
ระดับอวัยวะ คือ เกิดจากเนื้อเยื่อหลายชนิดมารวมกันทำหน้าที่อย่างเดียวกัน ในร่างกายของมนุษย์จะประกอบด้วยอวัยวะต่าง ๆ หลายอวัยวะ ถ้าเราแข็งแรงและมีสุขภาพดี ระบบอวัยวะทั้งหมดของร่างกายก็จะทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพโครงสร้าที่ประกอบด้วยเนื้อเยื่อหลายชนิดอยู่ร่วมกันและทำหน้าที่อย่างใดอย่างหนึ่งโดยเฉพาะ เช่น หัวใจ ปอด ตับ สมอง หัวใจ ไต กล้ามเนื้อ เป็นต้น
ระดับร่างกาย
อวัยวะหลาย ๆ ชนิดทำงานประสานกันเพื่อทำหน้าที่อย่างใดอย่างหนึ่งโดยเฉพาะ เรียกว่า ระบบร่างกาย
ร่างกายของเราประกอบด้วยอวัยวะต่างๆมาทำงานประสานกันเป็นระบบ เช่น ระบบทางเดินอาหาร ประกอบด้วยอวัยวะหลายอย่างได้แก่ หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ตับ ตับอ่อน ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ มาทำงานประสานกัน ถ้าอวัยวะใดอวัยวะหนึ่งทำงานผิดปกติไปหรือทำงานไม่ได้ก็จะมีผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตนั้น
นอกจากการทำงานที่ประสานกันภายในระบบนั้นๆแล้วระบบนั้นๆแล้วระบบต่างๆของร่างกายไมว่าจะเป็นระบบย่อยอาหร ระบบหายใจ ระบบโครงกระดูกและกล้ามเนื้อ ระบบประสาท ระบบขับถ่าย ระบบหมุนเวียนเลือด ระบบภูมิคุ้มกัน หรือระบบสืบพันธุ์ แต่ละระบบจะต้องทำงานประสานกันเพื่อให้สิ่งมีชีิตนั้นๆดำรงอยู่ได้
ร่างกายของมนุษย์ประกอบด้วยระบบร่างกายหลายระบบ ซึ่งแต่ละระบบจะทำงานประสานสัมพันธ์กัน เพื่อให้ดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างเป็นปกติ ถ้าระบบร่างกายใดทำงานผิดปกติหรือบกพร่อง จะส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบอื่น ๆ ในร่างกายด้วย เช่น ระบบย่อยอาหาร ระบบประสาท ระบบโครงกระดูก
เกร็ดความรู้
หมู่เลือด
หมู่เลือดแบ่งเป็น 4 หมู่ คือ A B O และ AB แต่ละหมู่จะมีแอนติเจนบนเม็ดเลือดแดง และแอนติบอดีในพลาสมา ที่แตกต่างกันไป ในการถ่ายเลือด หมู่เลือดของผู้ให้จะต้องสอดคล้องกับหมูเลือดของผู้รับหมู่เลือด | แอนติเจน | แอนติบอดี | หมู่เลือดที่รับได้ |
A | A | แอนติ A | A และ O |
B | B | แอนติ B | B และ O |
AB | A และ B | ไม่มี | ให้ได้ทุกหมู่ |
O | ไม่มี | แอนติ A แอนติ B | ให้ได้เฉพาะ O |
สารอาหาร
สารอาหาร คือ สารเคมีที่เป็นส่วนประกอบอาหาร แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ สารอาหารที่ให้พลังงาน ได้แก่ ไขมัน โปรตีน คาร์โบไฮเดรต และสารอาหารที่ไม่ให้พลังงาน ได้แก่ วิตามิน เกลือแร่ น้ำ และเส้นใยอาหาร
ไขมันเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายในฐานะที่เป็นแหล่งพลังงานสำคัญเช่นเดียวกับคาร์โบไฮเดรตและโปรตีน โดยไขมันสามารถให้พลังงานได้มากถึง 9 แคลอรี่ต่อกรัมซึ่งมากกว่าคาร์โบไฮเดรตและโปรตีน (ซึ่งให้พลังงาน 4 แคลอรี่ต่อกรัม)"โปรตีน"
คาร์โบไฮเดรต (Carbohydrate) เป็นสารชีวโมเลกุลที่สำคัญที่เป็นองค์ประกอบของสิ่งมีชีวิตทุกชนิค คำว่าคาร์โบไฮเดรตมีรากศัพท์มาจากคำว่า คาร์บอน (carbon) และคำว่าไฮเดรต (hydrate) อิ่มตัวไปด้วยน้ำ ซึ่งรวมกันก็หมายถึงคาร์บอนที่อิมตัวไปด้วยน้ำ เนื่องจากสูตรเคมีอย่างง่ายก็คือ (C•H2O)n ซึ่ง n≥3 หน่วยที่เล็กทีสุดของคาร์โบไฮเดรตก็คือน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวหรือ
โมโนแซคคาร์ไรด์ คาร์โบไฮเดรตเป็นสารอาหารหลักซึ่งให้พลังงานเท่ากับโปรตีน คือ 4 กิโลแคลลอรี่/1 กรัม ประกอบด้วย C คาร์บอน H ไฮโดรเจน และ O ออกซิเจน
โปรตีน (อังกฤษ: protein) เป็นสารอินทรีย์ซึ่งพบได้ในสิ่งมีชีวิตทุกชนิด มีโครงสร้างซับซ้อนและมีมวลโมเลกุลมาก โปรตีนมีหน่วยย่อยคือ กรดอะมิโน เรียงต่อกันด้วยพันธะเปปไทด์ โปรตีนมีหน้าที่สำคัญต่อโครงสร้างและกิจกรรมภายในเซลล์ของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด รวมทั้งไวรัสด้วย โปรตีนในอาหารนั้นเป็นแหล่งของกรดอะมิโน ให้แก่สิ่งมีชีวิตแต่ไม่สามารถสังเคราะห์กรดอะมิโนเหล่านั้นได้เอง
วิตามิน เป็นสารอินทรีย์ที่สิ่งมีชีวิตจำเป็นต้องได้รับในบริมาณเล็กน้อย สำหรับการเติบโต ขยายพันธุ์ และช่วยให้มีสุขภาพดี ถ้าสิ่งมีชีวิตขาดวิตามินตัวใดตัวหนึ่งจะมีอาการป่วยซึ่งมีลักษณะเฉพาะขึ้นกับวิตามินที่ขาด
วิตามินแบ่งออกเป็น 2 จำพวก คือ
เกลือแร่ (อังกฤษ: Dietary mineral) มีบทบาทและหน้าที่สำคัญใน ร่างกายหลายอย่างโดยเฉพาะอย่างยิ่งทำหน้าที่เป็นโครงสร้างของร่างกาย เป็นองค์ประกอบของ เซลล์เนื้อเยื่อและเส้นประสาท[1] เป็นองค์ประกอบของเอนไซม์ ฮอร์โมน และวิตามิน นอกจากนี้ เกลือแร่ยังทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อในทุกอวัยวะ จากความสำคัญและหน้าที่ ดังกล่าวนั้น จะเห็นว่า เกลือแร่เป็นสารอาหารที่มีความสำคัญยิ่งต่อร่างกาย ซึ่งร่างกายต้องได้ รับเพียงพอ ร่างกายจึงจะเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่และแข็งแรง อาหารทั่วไปที่เป็นแหล่งของเกลือแร่ทั้งชนิดหลักและชนิดปริมาณน้อยแตกต่างกันออกไปแล้วแต่ชนิดของอาหาร ตัวอย่าง เกลือแร่ที่มีความสำคัญต่อร่างกายประกอบด้วย แคลเซียม ฟอสฟอรัส ไอโอดีน เหล็ก แมกนีเซียม สังกะสี ทองแดง และโพแทสเซียม
ที่มา : เว็ปไซต์ http://th.wikipedia.org/
สารอาหารแต่ละชนิดมีความจำเป็นและเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย การรับประทานอาหารจึงมีความจำเป็นเพื่อให้พลังงานและเสริมสร้างส่วนที่สึกหรอของร่างกาย ดังนั้นในการรับประทานอาหารแต่ละมื้อควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
การทดสอบสารอาหารอุปกรณ์การทดลอง
1. อาหารที่ต้องการทดสอบ 3 ชนิด 2. สารละลายไอโอดีน 3. สารละลายเบเนดิกต์
4. สารละลายไบยูเร็ต 5. น้ำกลั่น 6. หลอดทดลองโดยใช้ 4 หลอด ต่ออาหาร 1 ชนิด
7. ชั้นวางหลอดทดลอง 8. กระดาษกรอง 9. หลอดหยดสาร 10. ตะเกียงแอลกอฮอร์
11. แท่งแก้ว 12. บีกเกอร์ 13. ตะแกรงและที่กั้นลม
วิธีทำทดลอง
1. นำอาหารที่ต้องการทดสอบชนิดที่ 1 แบ่งเป็น 2 ส่วน โดยใส่อาหารส่วนที่ 1 ลงในหลอดทดลองที่มีน้ำอุ่น 15 ลูกบาศก์เซนติเมตร ตั้งทิ้งไว้ 15 นาที
2. แบ่งของเหลวจากข้อ 1 ใส่ในหลอดทดลอง 3 หลอด ๆ ละ 5 ลูกบาศก์เซนติเมตร
3. นำแต่ละหลอดไปทดสอบเพื่อหาแป้ง น้ำตาล และโปรตีน ตามลำดับดังนี้
- การทดสอบเพื่อหาแป้งจะใช้การหยดสารละลายไอโอดีน เพื่อดูการเปลี่ยนสี
- การทดสอบเพื่อหาโปรตีนจะใช้การหยดสารละลายไบยูเร็ต เพื่อดูการเปลี่ยนสี
4. นำอาหารส่วนที่ 2 ไปถูกับกระดาษกรอง เพื่อทดสอบหาไขมัน แล้วบันทึกผล
5. ทำการทดลองซ้ำข้อ 1 – 4 โดยเปลี่ยนเป็นอาหารชนิดที่ 2 และ 3 ตามลำดับ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)